Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพห้องเรียนและทรัพยากรในห้องเรียน และศึกษาสภาพทั่วไป ความต้องการ ความพร้อมและปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการออกแบบแผนการเรียนรู้ 2) เพื่อสร้างรูปแบบห้องเรียนเสมือนจริงในบริบทการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมความสามารถการออกแบบแผนการเรียนรู้ที่บูรณาการไอซีทีของนักศึกษาครู
3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบฯ และ 4) เพื่อรับรองและนำเสนอรูปแบบฯ ตัวอย่างในการวิจัยได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ประกอบไปด้วย ครูโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 412 คน สำหรับการศึกษาสภาพห้องเรียนและทรัพยากรในห้องเรียน และนิสิต นักศึกษาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ระดับปริญญาบัณฑิต จำนวน 1,052 คน สำหรับการศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบฯ เครื่องมือการวิจัยที่ใช้ประกอบไปด้วย แบบสอบถาม และรูปแบบห้องเรียนเสมือนจริง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างด้วยโปรแกรมลิสเรล ผลการวิจัยมีดังนี้
1. นิสิต นักศึกษาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ระดับปริญญาบัณฑิตมีความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์การสอนที่สอดคล้องต่อเนื้อหา ในลำดับความต้องการมากที่สุด (PNIModified = 0.185) รองลงมาคือ มีความต้องการจำเป็นในการกำหนด
กลยุทธ์การสอน (PNIModified = 0.179)
2. รูปแบบห้องเรียนเสมือนจริงฯ มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ต้นแบบและผู้เชี่ยวชาญ 2) ระบบห้องเรียนเสมือนจริง
3) คลังความรู้และกิจกรรม 4) การประเมินผล 5) ผู้เรียน ขั้นตอนการเรียนการสอนประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการออกแบบแผนการเรียนรู้ที่บูรณาการไอซีทีก่อนการเรียนรู้ 2) เรียนรู้แนวคิดเกี่ยวกับ TPACK 3) ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการบูรณาการไอซีทีประยุกต์ศาสตร์การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง 4) ฝึกปฏิบัติการออกแบบแผนการเรียนรู้ที่บูรณการไอซีทีในบริบทการเรียนรู้แตกต่างกัน
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบห้องเรียนเสมือนจริงฯ พบว่า นักศึกษาครูกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถการออกแบบแผนการเรียนรู้ที่บูรณาการไอซีทีสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนการใช้รูปแบบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินรับรองรูปแบบห้องเรียนเสมือนจริงฯ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด