Abstract:
ความท้อแท้ในการทำงานเกิดจากการตอบสนองต่อความเครียดเป็นเวลานานโดยไม่สามารถจัดการได้ การวิจัยนี้ศึกษา 1) ระดับความท้อแท้ในการทำงานและปัจจัยเสี่ยงในโรงเรียน 2) พัฒนาโมเดลสมการโครงสร้างของปัจจัยเสี่ยง 3) จำแนกกลุ่มของครูโดยใช้การวิเคราะห์ต้นไม้เอสอีเอ็ม และ 4) พัฒนาข้อเสนอทางเลือกในการลดความท้อแท้ในการทำงาน ตัวอย่าง คือ ครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 720 คน เก็บข้อมูลจากแบบสอบถามออนไลน์ และวิเคราะห์ด้วย Independent sample t-test one-way ANOVA โมเดลสมการโครงสร้าง และต้นไม้เอสอีเอ็ม (SEM tree) จำแนกกลุ่มครูตามความแปรปรวนและสัมประสิทธิ์อิทธิพลที่แตกต่างกัน
พบว่า ครูมีความท้อแท้ในการทำงานในระดับปานกลาง (M =33.60, SD = 9.41) โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อความท้อแท้ คือ อายุ รายได้ ประสบการณ์ทำงาน จำนวนงานนอกเหนืองานสอน และการทำงานฝ่ายงบประมาณและแผนงาน ซึ่งการรับรู้ความสามารถในตนเอง และการสนับสนุนจากโรงเรียน ส่งผลต่อความท้อแท้ในการทำงานของครู โดยมีความยึดมั่นผูกพันในการทำงาน เป็นตัวแปรส่งผ่านแบบบางส่วนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (chi-square (346, N = 720) = 1142.254, p < .001, CFI = .931, TLI = .919, RMSEA = 0.057 และ SRMR = 0.079) ส่วนกลยุทธ์การเผชิญปัญหาเป็นปัจจัยที่ไม่ส่งผลต่อความท้อแท้ในการทำงาน จากการวิเคราะห์ต้นไม้เอสอีเอ็มจำแนกครูเป็น 6 กลุ่มที่มีปัจจัยภูมิหลังต่างกัน พัฒนาทางเลือกในการลดความท้อแท้ในการทำงานไปยังครู ผู้บริหาร ผู้ออกนโยบายและสถานผลิตครู และประเมินความเหมาะสม พบว่า ข้อเสนอทางเลือกมีความความเป็นไปได้ระดับมาก และมีประโยชน์ในทางปฏิบัติระดับมากที่สุด