Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการออมเงิน การเปิดรับข่าวสารทางการเงิน ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณของแรงงานนอกระบบ และศึกษาความแตกต่างระหว่างลักษณะประชากรกับการเปิดรับข่าวสารทางการเงิน ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณ รวมถึงศึกษาอิทธิพลของการเปิดรับข่าวสารทางการเงิน ความรู้ ทัศนคติ ต่อพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณ ด้วยระเบียบวิธีเชิงปริมาณโดยการใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างแรงงานนอกระบบจำนวน 400 คน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 60 ปี ทั้งเพศชายและเพศหญิง ที่อยู่อาศัย/ทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่มีการเปิดรับข่าวสารทางการเงินอยู่ในระดับปานกลาง โดยเปิดรับผ่านสื่อออนไลน์ ในช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. และมีเวลาโดยเฉลี่ยในการเปิดรับข้อมูล 1 – 2 ชั่วโมงมากที่สุด มีความรู้ทางการเงินอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 5 คะแนน ซึ่งมีความรู้ด้าน “การกระจายความเสี่ยง” มากที่สุด และมีความรู้ในด้าน “อัตราดอกเบี้ย” และ “การคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากทบต้น” น้อยที่สุด ส่วนทัศนคติทางการเงินอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีทัศนคติในเรื่อง “การออมทรัพย์เป็นการสร้างความมั่นคงให้ตนเองและ/หรือครอบครัวอย่างหนึ่ง” ระดับมากที่สุด และมีพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีพฤติกรรมใน “การวางแผนที่จะชำระหนี้สินให้หมดก่อนที่จะเกษียณอายุ” มากที่สุด
ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า แรงงานนนอกระบบที่มีเพศแตกต่างกัน มีการเปิดรับข่าวสารทางการเงิน ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในทางกลับกัน แรงงานนนอกระบบที่มีระดับการศึกษา และรายได้ส่วนบุคคลโดยเฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกัน มีการเปิดรับข่าวสาร ความรู้ และทัศนคติทางการเงิน รวมถึงพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในด้านของอิทธิพลของตัวแปร พบว่า ตัวแปรอิสระทั้ง 3 ตัวแปร ได้แก่ การเปิดรับข่าวสารทางการเงิน ความรู้ทางการเงิน และทัศนคติทางการเงิน ล้วนสามารถอธิบายพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณของกลุ่มตัวอย่างได้ร้อยละ 28 ในทิศทางเดียวกัน โดยตัวแปรอิสระที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการออมเพื่อการเกษียณได้ดีที่สุด คือ การเปิดรับข่าวสารทางการเงิน รองลงมาได้แก่ ทัศนคติทางการเงิน และความรู้ทางการเงิน ตามลำดับ