การใช้คอมพิวเตอร์ของกิจการธนาคาร

Abstract

โดยที่การพิจารณาตัดสินใจเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือของการดำเนินงานทางด้านการธนาคารเป็นเรื่องที่สำคัญที่ธนาคารจะต้องทำการศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบตลอดจนมีการวางแผนดำเนินงานที่ถูกต้องและรัดกุมเพียงพอ เพราะต้องใช้เงินทุนเป็นจำนวนมากและความคุ่มค่าของการลงทุนหรือไม่นั้นจะปรากฏออกมาในลักษณะระยะยาวมากกว่าระยะสั้น เพราะฉะนั้นเพื่อกำหนดแนวทางการพิจารณาตัดสินใจนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในกิจกรรมธนาคารให้มีประสิทธิภาพและให้ผลคุ้มค่าที่สุด จึงได้ทำการศึกษาและค้นคว้าจากทฤษฏีที่ผู้เรียบเรียงไว้แล้วและจากการปฏิบัติงานของธนาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นธนาคารที่เริ่มนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการดำเนินงานของธนาคารเป็นธนาคารแรกในประเทศไทย โดยสามารถสรุปผลของการศึกษาได้ดังนี้คือ 1. กิจกรรมของธนาคารนับวันจะมีการนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้เพิ่มมากขึ้นทุกทีและที่กำลังเริ่มหรือสนใจที่จะติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงานของตนที่มีอยู่เป็นจำนวนมิใช้น้อย ซึ่งหน่วยงานโดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงต้องพิจารณาและตัดสินใจอย่างละเอียดรอบคอบ อาทิเช่น ปัญหาในการเลือกงานที่นำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ว่าควรเป็นงานประเภทใดบ้าง ปัญหาการเลือกคอมพิวเตอร์ของบริษัทใดดีปัญหาเกี่ยวกับการสรรหาบุคคลเข้ามาทำงานต่างๆ ภายในหน่วยงานคอมพิวเตอร์ เป็นต้น 2. ในการพิจารณาติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานนั้นจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ให้แน่นนอนเสียก่อน แล้วทำการประเมินค่าให้ละเอียดถี่ถ้วนว่ามีปริมาณงานเพียงพอหรือไม่ที่จะป้อนให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออีกนัยหนึ่งคือ พิจารณาว่ามีปริมาณงานพอที่จะใช้งานได้ผลคุ้มค่าหรือไม่ การวางแผนงานและการเตรียบระบบงานแต่ละชิ้นที่จะนำมาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมแล้วหรือยัง จะต้องไม่เสี่ยงกับการลงทุนอย่างมหาศาลในการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยไม่แน่ใจจะได้ผลสมความประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ 3. เพื่อให้ปัญหาในการจัดตั้งหน่วยคอมพิวเตอร์มีน้อยที่สุด จึงควรกำหนดแนวทางในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ให้มีประสิทธิภาพและได้ผลคุ้มค่ามากที่สุด โดยการวางแผนและตระเตรียมงานต่างๆ ให้สมบูรณ์มากที่สุดนับตั้งแต่ปัญหาการศึกษาความเหมาะสม (Feasibility Study) ปัญหาในการเตรียมการก่อนติดตั้งเครื่อง (Preinstruction Preparation) รวมทั้งปัญหาในการออกแบบการใช้และการปรับปรุงระบบงานให้เหมาะสมกับนำมาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ปัญหาในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ การเขียนคำสั่งให้เครื่องทำงานตามระบบใหม่ การทดสอบการดำเนินงาน กรรมวิธีข้อมูลของระบบงานใหม่ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานานพอสมควร เช่น ก่อนหน้าและภายหลังที่ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์จริงๆ แล้วอาจจะต้องใช้เวลาเตรียมการ 2 ถึง 3 ปี ส่วนการที่สามารถใช้เครื่องทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ อาจใช้เวลาต่อไปอีก 1 ถึง 2 ปี เป็นต้น 4. เพื่อแก้ไขปัญหาคู่สายโทรศัพท์ไม่ Reliable และค่าเช่าค่อนข้างสูง ควรใช้วิธีการแบบ Distributed Processing ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ขึ้นอยู่กับคู่สายโทรศัพท์มากไปทั้งยังจะช่วยแก้ปัญหาในกรณี Central Computer หรือ Transmission Central Unit เสียลงได้อีก ตลอดจนเป็นการกระจายความรับผิดชอบออกไปสู่ Users