ความต้องการการศึกษาต่อเนื่องของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลศูนย์

Abstract

การวิจัยเรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความต้องการการศึกษาต่อเนื่อง ความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการศึกษาต่อเนื่องของพยาบาลในโรงพยาบาลศูนย์ และเปรียบเทียบความต้องการและความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาล ของพยาบาลระดับวิชาชีพ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์ 14 แห่ง ในประเทศไทย โดยจำแนกกลุ่มประชากรเป็น 3 กลุ่ม คือ (1) จำแนกตามภูมิภาค ตามสถานที่ตั้งของโรงพยาบาล (2) จำแนกตามตำแหน่งหน้าที่ และ (3) จำแนกตามระยะเวลาการปฏิบัติงาน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งเป็นชั้น และสุ่มแบบมีระบบ เครื่องเมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามซึ่งผู้วิจัยได้สร้างขึ้นเองโดยศึกษาจากตำราและเอกสารการวิจัยที่เกี่ยวข้อง แล้วนำไปปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิก่อนที่จะนำไปทดสอบกับพยาบาลทุกตำแหน่ง เพื่อแก้ไขแบบสอบถาม แล้วจึงนำไปใช้จริง ผู้วิจัยได้ส่งแบบสอบถาม 621 ชุด ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ทั้ง 14 แห่ง ได้รับแบบสอบถามที่สมบูรณ์นำมาวิเคราะห์ 558 ชุด คิดเป็นร้อยละ 89.8 หลังจากการรวบรวมข้อมูลแล้ว ได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ และเปรียบเทียบความแตกต่างโดยใช้ไคสแควร์ สรุปผลการวิจัย 1. ผลจากการสำรวจความต้องการการศึกษาต่อของพยาบาลในโรงพยาบาลศูนย์พบว่าพยาบาลมีความเห็นว่าการปฏิบัติงานในปัจจุบันมีความจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม “มาก” ถึงร้อยละ 91.9 และส่วนใหญ่มีความต้องการการศึกษาต่อเนื่องโดยเฉลี่ยร้อยละ 90.7 2. การเปรียบเทียบความต้องการและรูปแบบความต้องการการศึกษาต่อเนื่องของพยาบาล ได้ผลดังนี้ 2.1 พยาบาลในแต่ละภูมิภาคตามสถานที่ตั้งของโรงพยาบาล ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 จึงสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ 2.2 พยาบาลในแต่ละตำแหน่งหน้าที่มีความต้องการการศึกษาต่อเนื่อง สาขาวิชาที่ต้องการ และลักษณะการการศึกษาวิชาชีพพยาบาล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 จึงเป็นไปตามสมมุติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ 2.3 พยาบาลที่มีระยะเวลาการปฏิบัติงานแตกต่างกัน มีความต้องการศึกษาต่อเนื่อง สาขาวิชาที่ต้องการ และลักษณะการศึกษาวิชาชีพ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับ 0.05 จึงเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ 2.4 จากสมมุติฐานการวิจัยที่ว่า “พยาบาลที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์แต่ละภูมิภาค มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการศึกษาต่อเนื่องไม่แตกต่างกัน” ปรากฏว่าความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ 0.05 จึงไม่เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ 2.5 จากสมมุติฐานการวิจัยที่ว่า “พยาบาลที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการศึกษาต่อเนื่องแตกต่างกัน” ปรากฏว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการศึกษา มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 จึงตรงตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ 2.6 พยาบาลที่มีระยะเวลาในการปฏิบัติงานแตกต่างกัน ได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการศึกษาในลักษณะต่าง ๆ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 จึงเป็นไปตามสมมุติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้