Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/70979
Title: การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ตามทฤษฎีโครงสร้างความรู้สำหรับนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
Other Titles: The development of a model of teaching English reading comprehension based on schema theory for the upper secondary school students
Authors: ศิริพร ฉันทานนท์
Advisors: สุมิตรา อังวัฒนกุล
ทวีวัฒน์ ปิตยานนท์
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย
Advisor's Email: Sumitra.A@Chula.ac.th
Taweewat.P@Chula.ac.th
Subjects: ภาษาอังกฤษ -- การอ่าน
การอ่านขั้นมัธยมศึกษา
ความเข้าใจในการอ่าน
ภาษาอังกฤษ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา)
Issue Date: 2539
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของพฤติกรรมการสอนของครู เวลาที่ใช้ในการเรียนของนักเรียน และผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพมหานครและการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสอนของครูกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาที่ใช้ในการเรียนกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนและความสัมพันธ์เชิงพหุคูณระหว่างพฤติกรรมการสอนของครู และเวลาที่ใช้ในการเรียนกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน ตลอดจนสร้างสมการทำนายผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษ โดยใช้พฤติกรรมการสอนของครู และเวลาที่ใช้ในการเรียนของนักเรียนเป็นตัวทำนาย ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. พฤติกรรมการสอนของครูภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพมหานคร โดยเฉลี่ยไม่ได้สอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร การใช้เวลาในการเรียนของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความสามารถระดับสูงโดยเฉลี่ยใช้เวลาในการเรียนมากเกือบเท่าเวลาเต็มของแต่ละคาบเรียน ส่วนนักเรียนที่มีความสามารถระดับต่ำโดยเฉลี่ยใช้เวลาในการเรียนมากกว่าครึ่งหนึ่งของเวลาเต็มของแต่ละคาบเรียน ส่วนผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายมีความสามารถระดับสูงมีค่ามัชฌิมเลขคณิตของคะแนนเท่ากับ 39.81 คะแนน จาก 56 คะแนน ค่ามัชฌิมเลขคณิตของคะแนนผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่มีความสามารถระดับต่ำเท่ากับ 22.21 คะแนนจาก 56 คะแนน 2. พฤติกรรมการสอนของครูมีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่มีความสามารถระดับสูง แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่มีความสามารถระดับต่ำ 3. เวลาที่ใช้ในการเรียนมีความสัมพันธ์ทางบวก กับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนทางที่มีความสามารถระดับสูงและต่ำ 4. พฤติกรรมการสอนของครูและเวลาที่ใช้ในการเรียนมีความสำคัญทางบวกกับผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนทั้งที่มีความสามารถระดับสูงและต่ำ และเวลาที่ใช้ในการเรียนเป็นตัวแปรเดียวที่สามารถทำนายคะแนนผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนทั้งที่มีความสามารถระดับสูงและต่ำได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 5. สมการจำหน่ายผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่มีความสามารถระดับสูงในรูปคะแนนดิบและคะแนนมาตรฐานคือ Y1 = -42.9472+1.7738X1 Y1 = 0.6899X1 สมการทำนายผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่มีความสามารถระดับต่ำในรูปคะแนนดิบและคะแนนมาตรฐานคือ Y2 = -3.1483+0.6930X1 Y2 = .7949X1
Other Abstract: The purposes of this research were to study the teaching behaviors of upper secondary school English teachers, students' time-on-task, and English learning achievement of upper secondary school students in Bangkok Metropolis; and to investigate the relationship between teaching behaviors and students' English learning achievement, the relationship between students' time-on-task and students' English learning achievement, and the multiple relationships between teaching behaviors and students' time-on-task with students' English learning achievement as well as to construct the multiple regression equations for predicting students' English learning achievement by using teaching behaviors and students' time-on-task as predictors. The major findings were as follows: 1. Upper secondary school English teachers in Bangkok Metropolis, on average, did not apply the Communicative Approach in their teaching. The high ability students' average time-on-task was quite high-almost covered the full time of each period. However, the low ability students' average time-on-task was also more than h a lf of the full time of each period. The average achievement scores of high ability students were 39.81 from 56 scores while those of low ability students were 22.21 from 56 scores. 2. There was a positive relationship between teaching behaviors and the English learning achievement of high ability students, but no relationship was found between teaching behaviors and the English learning achievement of low ability students. 3. There was a positive relationship between students' time-on-task and the English learning achievement of both high and low ability students. 4. There were positive relationships between teaching behaviors and students' time-on-task with English learning achievement of both high and low ability students, and students, time-on-task was the only single variable that could significantly predict the English learning achievement of both high and low ability students. 5. The multiple regression equations of English learning achievement of high ability students in raw scores and standard scores were. Y1 = -42.9472+1.7738X1 Y1 = 0.6899X1 The multiple regression equations of English learning achievement of low ability students in raw scores and standard scores were: Y2 = -3.1483+0.6930X1 Y2 = .7949X1
Description: วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539
Degree Name: ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาเอก
Degree Discipline: หลักสูตรและการสอน
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/70979
ISBN: 9746360329
Type: Thesis
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Siriporn_ch_front_p.pdf935.2 kBAdobe PDFView/Open
Siriporn_ch_ch1_p.pdf1.23 MBAdobe PDFView/Open
Siriporn_ch_ch2_p.pdf2.08 MBAdobe PDFView/Open
Siriporn_ch_ch3_p.pdf1.75 MBAdobe PDFView/Open
Siriporn_ch_ch4_p.pdf1.8 MBAdobe PDFView/Open
Siriporn_ch_ch5_p.pdf969.52 kBAdobe PDFView/Open
Siriporn_ch_back_p.pdf3.78 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.