การทดลองใช้แบบจำลองขอบเขตหน้าที่และเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษา ณ วิทยาลัยครูเชียงใหม่

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยขอบเขตหน้าที่และเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษา ซึ่งแผนกวิชาประถมศึกษาเป็นเจ้าของโครงการ ผู้วิจัยมีหน้าที่ทดลองใช้แบบจำลองขอบเขตหน้าที่และเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษาในแบบจำลองกับหลักสูตรการฝึกหัดครู และสำรวจความมั่นใจในการปฏิบัติงานครู เกี่ยวกับขอบเขตหน้าที่และเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษา วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับขอบเขตหน้าที่และเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษา และสร้างแบบจำลองขอบเขตหน้าที่เกี่ยวกับเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษา ซึ่งคณะผู้วิจัยแผนกวิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยสร้างขึ้น มาเป็นพื้นฐานในการสร้างแบบสำรวจ ซึ่งมี 2 ชุด คือแบบสำรวจหลักสูตรและรายวิชาเรียนในวิทยาลัยครู กับแบบสำรวจความมั่นใจในการปฏิบัติงานครูซึ่งแต่ละประเภทประกอบด้วยขอบเขตหน้าที่และเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษามีจำนวน 131 ข้อ โดยครอบคลุมเนื้อหา 4 หมวด คือ หมวด ก. ความรู้ของครู (ความรู้วิชาสามัญ และความรู้วิชาครู) หมวด ข. ทักษะในการสอนของครู หมวด ค. ทัศนคติของครู และหมวด จ. หน้าที่และงานของครู แล้วนำแบบจำลองประเภทแรกไปตรวจสอบเอกสารหลักสูตร และแบบสอบถามหัวหน้าภาควิชาและอาจารย์ผู้สอนในวิทยาลัยครูเชียงใหม่วิทยาลัยครูลำปาง และวิทยาลัยครูพิบูลสงคราม และนำแบบสำรวจประเภทที่สองไปสำรวจความมั่นใจของครูประจำการที่สอนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษา โดยสุ่มตัวอย่างประชากรจากครูที่สอนอยู่ในอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 50 คน นำผลจากการสำรวจความมั่นใจของครูครั้งแรกมาวิเคราะห์ เพื่อหารายการที่ครูมีความมั่นใจน้อย มาจัดเป็นหัวข้อในการอบรม ได้ประสานงานให้มีการอบรมเพื่อเสริมสมรรถภาพให้แก่ครูประจำการขึ้นที่วิทยาลัยครูเชียงใหม่ หลังการอบรมแล้วได้ให้ครูผู้เข้ารับการอบรมตอบแบบสำรวจอีกครั้งหนึ่ง ผู้วิจัยได้นำข้อมูลจากแบบสำรวจทั้ง 2 ประเภท มาวิเคราะห์การสำรวจหลักสูตรและรายวิชาเรียนได้นำเสนอในรูปตารางและความเรียง ส่วนความมั่นใจของครูได้คำนวณหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบคะแนนของความมั่นใจโดยเฉลี่ย โดยการทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัย 1. การสำรวจหลักสูตรและรายวิชาในวิทยาลัยครู ปรากฏว่าวิทยาลัยครูเชียงใหม่ วิทยาลัยครูลำปาง และวิทยาลัยครูพิบูลสงคราม มีวิชาต่าง ๆ ที่เหมือน ๆ กัน ซึ่งสนองกับขอบเขตหน้าที่และเกณฑ์มาตรฐานของครูประถมศึกษาทุกรายการในระดับ ป.กศ.สูง และเกือบทุกรายการในระดับปริญญาตรี 2. การสำรวจความมั่นใจในการปฏิบัติงานครู ค่าทีที่คำนวณได้ มีนัยสำคัญที่ระดับ .01 และที่ระดับอื่นที่ต่ำกว่า โดยเฉลี่ยแล้วคะแนนความมั่นใจของทั้ง 4 หมวด คือความรู้ของครู ทักษะในการสอนของครู ทัศนคติของครู และหน้าที่และงานของครูประจำการผู้เข้ารับการอบรมก่อนและหลังการอบรมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 และที่ระดับอื่นที่ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยของความมั่นใจของครูทุกหมวดหลังการอบรมสูงกว่าคะแนนก่อนการอบรม จึงกล่าวได้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วหลังจากการอบรมครูมีความมั่นใจในด้านความรู้ของครู ทักษะในการสอนของครู ทัศนคติของครู และหน้าที่และงานของครู สูงขึ้นกว่าก่อนการอบรม อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 และที่ระดับอื่นที่ต่ำกว่า ผลการอบรมครูประจำการจึงสอดคล้องกับสมมติฐานที่ว่า ครูประจำการมีความมั่นใจในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการอบรมเสริมสมรรถภาพทางวิชาการ