Abstract:
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจรูปแบบการเรียนรู้, เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนที่มีประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษกับผู้สอนที่แตกต่างกัน 2) เปรียบเทียบรูปแบบการเรียนรู้ ,เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ ระหว่างนักเรียนที่มีประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน 3 รูปแบบ คือ (1) การเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์ชาวไทย (2) การเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์เจ้าของภาษา (3) การเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์เจ้าของภาษาและย้ายกลับมาเรียนกับอาจารย์ไทย ตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 36 คน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) รูปแบบการเรียนรู้ที่นักเรียนส่วนใหญ่นำไปใช้ในการเรียนมากที่สุดสามอันดับแรก คือ รูปแบบการเรียนรู้แบบมีความสามารถในการคาดคะเน วางแผนแบบสร้างสรรค์ และคิดแบบนามธรรม (Intuitive) (M=21.25, SD = 3.78) รองลงมา คือ สามารถตัดสินใจอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับข้อมูล (Closure-oriented) (M=20.28,SD = 5.32) อันดับสาม คือ สามารถมองภาพรวม เดาความหมายของคำศัพท์จากบริบท (Global/Holistic) (M=19.58,SD = 4.21) เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ ความอดทนต่อภาวะกำกวม (Ambiguity) (M=39.00,SD=7.78) รองลงมา คือ ความกล้าเสี่ยง (Risk-Taking) (M=37.34,SD=8.08) อันดับสาม คือ การเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น (Ego Permeability) (M=35.71,SD=9.87) และผลคะแนน รายวิชาภาษาอังกฤษหลัก ซึ่งพบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย คิดเป็น 88.50 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน 2) นักเรียนที่มีประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษที่แตกต่างกัน 3 รูปแบบ มีรูปแบบการเรียนรู้ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (F = .297, Sig. = 0.745) เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (F = .766, Sig. = 0.468) และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลักไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (F = .368, Sig. = 0.695)