Abstract:
แผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 กล่าวถึงมาตรการส่งเสริมผู้สูงอายุโดยกำหนดให้ภาครัฐ/เอกชน ประชาชน และชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดหาที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมและสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นความจำเป็นในการจัดเตรียมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรองรับการเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างมีคุณภาพและเป็นการแบ่งเบาภาระพึ่งพิงอันจะเกิดแก่ครอบครัว ชุมชนและรัฐอีกทางหนึ่ง การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพสังคม เศรษฐกิจ สุขภาพ และการรวมกลุ่มกิจกรรม (2) เพื่อศึกษาสภาพการอยู่อาศัยและความต้องการที่อยู่อาศัย (3) เพื่อเสนอแนวทางการจัดเตรียมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุแก่หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ โดยศึกษาผู้สูงอายุในกรุงเทพฯและใช้สวนสาธารณะลุมพินีเป็นพื้นที่ศึกษา กลุ่มตัวอย่างคือสมาชิกชมรมผู้สูงอายุต่างๆในสวนลุมพินีที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ใช้วิธีการสังเกต, การสำรวจ, แบบสอบถามจำนวน 290 ชุด,การสัมภาษณ์เชิงลึกตัวแทนชมรม 10 คน,การสนทนากลุ่มเพื่อหาข้อเสนอแนะในการจัดเตรียมที่อยู่อาศัย 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ผลการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 50-89 ปี ส่วนใหญ่ช่วงอายุ 60-69ปี เชื้อชาติจีน สัญชาติไทย การศึกษาระดับประถมศึกษา สมรส มีบุตร 3-4 คน ปลดเกษียณแล้ว เกณฑ์รายได้อยู่ในกลุ่มรายได้ปานกลาง (15,001-30,000บาท/เดือน) และรายได้สูง (30,001บาท/เดือนขึ้นไป) สุขภาพแข็งแรงช่วยเหลือตัวเองได้ ชอบสังคม การรวมกลุ่มกิจกรรม และการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่พักอาศัยเขตกรุงเทพฯชั้นใน อยู่ตึกแถว/อาคารพาณิชย์ ขนาดที่ดินต่ำกว่า 50 ตารางวา พักชั้น 2 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ อาศัยนานกว่า 20 ปี อยู่ในหลังเดียวกับลูกหลาน ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาด้านที่อยู่อาศัยเพราะยังดูแลตนเองได้ เคยชินและไม่คิดว่าเป็นปัญหา แต่กลุ่มที่มี ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยจะพบปัญหาสภาพแวดล้อมเป็นอันดับแรก(มลพิษทางอากาศและเสียง) ด้านความต้องการที่อยู่อาศัยพบว่า มี 3 กลุ่ม (1) กลุ่มไม่คิดย้ายจากที่อยู่เดิม (ร้อยละ82.07) เพราะรักและผูกพันกับที่เดิม (2)กลุ่มคิดย้าย (ร้อยละ14.83) เพราะต้องการความสงบและอิสระ (3) กลุ่มที่ตอบทั้ง 2 กรณี คือปัจจุบันยังไม่คิดย้าย แต่ในอนาคต 3-5 ปีคิดย้าย (ร้อยละ 3.10)ให้เหตุผลคล้ายกลุ่มที่คิดย้าย โดยกลุ่มที่ไม่คิดย้ายจะเน้นการปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพของผู้สูงอายุ งบประมาณปรับปรุงประมาณ 100,000-500,000 บาท ส่วนกลุ่มคิดย้ายส่วนใหญ่ต้องการบ้านเดี่ยว ขนาดที่ดินต่ำกว่า 50 ตารางวา ทำเลเขตกรุงเทพฯชั้นกลางหรือชั้นนอกที่เดินทางสะดวก ระดับราคาประมาณ 3-4 ล้าน ปัจจัยที่คำนึงถึงอันดับแรกคือเรื่องความสะดวกในการเดินทาง เพราะกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ สำหรับสถานที่พักผ่อนหย่อนใจพบว่า กลุ่มตัวอย่างสนใจท่องเที่ยวเนื่องจากส่วนใหญ่ปลดเกษียณจึงให้รางวัลชีวิตโดยการท่องเที่ยวและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ส่วนใหญ่ต้องการพักรีสอร์ท (ร้อยละ 32.20) โรงแรม (ร้อยละ 29.05) ระดับราคา ต่ำกว่า 2,000บาท/คืน ทำเลต่างจังหวัด (ทะเล,ภูเขา,วัฒนธรรม,น้ำตก) และให้ความสำคัญกับสวนสาธารณะในเมือง เพราะเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์และออกกำลังกาย ข้อเสนอแนะแนวทางการจัดเตรียมที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (1)การปรับปรุงบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่คิดย้าย ภาครัฐต้องเป็นตัวกลางหลักร่วมมือกับสมาคมวิชาชีพฯ เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำประชาชนและผู้สูงอายุที่ไม่คิดย้าย อีกทั้งภาครัฐต้องเปิดทางให้ภาคเอกชนทำธุรกิจการปรับปรุงบ้านสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคา-คุณภาพ-ความรวดเร็ว (2) โครงการที่อยู่อาศัยลักษณะต่างๆที่ยึดหลักแนวคิดในออกแบบที่เป็นสากล สำหรับกลุ่มที่ต้องการย้าย ภาครัฐต้องออกมาตรการ และติดตามผล ภาครัฐวิสาหกิจ (การเคหะแห่งชาติ) และภาคเอกชน เพื่อให้ยึดแนวคิดการออกแบบที่เป็นสากลและสร้างที่อยู่อาศัยลักษณะต่างๆให้เหมาะสมกับทุกวัยให้เกิดผลเชิงรูปธรรม (3) มาตรการลดหย่อนภาษีแก่ลูกหลานกตัญญูในเรื่องการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ผู้สูงอายุ