Abstract:
ความผิดอาญาฐานดูหมิ่นและความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาทเป็นความผิดที่ปรากฏในสังคมไทยตั้งแต่อดีต โยบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวปรากฏอยู่ในบทพระไอยการและกฎหมายฉบับต่าง ๆ ในกฎหมายตราสามดวง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ได้รับอิทธิพลทางด้านแนวความคิดมาจากศาสนาฮินดู และพระพุทธศาสนา ในรูปของพระธรรมศาสตร์ เมื่อได้มีการนำมาใช้ในสังคม ก็ได้ประยุกต์เอาปัจจัยทางสังคมต่าง ๆ ที่เป็นลักษณะของไทยโดยแท้ อาทิเช่น ระบบการปกครอง และคติความเชื่อทางศาสนา และคติความเชื่อพื้นบ้าน มากำหนดไว้ในการบัญญัติกฎหมายดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องมาจากการรับวิทยาการสมัยใหม่และแนวความคิดทางกฎหมายจากต่างประเทศ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองการปกครอง สภาพเศรษฐกิจและสังคม จึงทำให้บทบัญญัติเกี่ยวกับความผิดอาญาทั้งสองฐานในกฎหมายตราสามดวง ไม่ครอบคลุมการกระทำความผิดในรูปแบบใหม่ ๆ และไม่สอบคล้องกับแนวความคดของกฎหมายต่างประเทศ ดังนั้นจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงถ้อยบัญญัติของการกระทำความผิดฐานดูหมิ่นและความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาทเพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้อง กับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการบัญญัติแยกฐานความผิดทั้งสองจากกันอย่างเด่นชัด ทั้งสืบเนื่องมาจากอิทธิพลของกฎหมายจากประเทศทางตะวันตก จึงได้มีการให้ความสำคัญต่อการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทมากขึ้น ตามค่านิยมของสังคมซึ่งเห็นว่าการใส่ความผู้อื่น ย่อมทำให้ให้ผู้ถูกใส่ความได้รับความเสียหายมากกว่า ซึ่งต่างจากบทบัญญัติของกฎหมายไทยดั้งเดิมที่เห็นว่าการใส่ความนั้น ผู้ถูกใส่ความมิได้รับความเสียหายเท่ากับการดูหมิ่น