Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนเชิงประสบการณ์ในสถาบันราชภัฏ พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเชิงประสบการณ์ของผู้เรียนสาขาวิชาศิลปศาสตร์ ในสถาบันราชภัฏ และศึกษาผลจากการใช้รูปแบบการเรียนการสอนเชิงประสบการณ์ที่เสริมสร้างทักษะการทำงานในด้านทักษะการปฏิบัติ การแก้ปัญหาและการทำงานเป็นทีม กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 โปรแกรมนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ จำนวน 30 คน ปีการศึกษา 2546 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณได้แก่แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา แบบประเมินความสามารถในการทำงานเป็นทีม ซี่งวัดสองช่วง คือ ช่วงแรก คือ ช่วงก่อนการทดลองและหลังการทดลอง ช่วงที่สองคือช่วงเสร็จสิ้นการทดลองสอนหนึ่งเดือน ส่วนแบบประเมินผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวัด 2 ครั้ง คือ ก่อนเรียน และหลังเสร็จสิ้นการเรียน ในการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ การสังเกต การสัมภาษณ์ การรายงานตนเอง และแฟ้มสะสมงานเพื่อประเมินทักษะในการปฏิบัติ สำหรับรูปแบบการเรียนการสอนเชิงประสบการณ์เป็นการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริง ช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสสร้างเสริมและรับรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในขณะเดียวสันผู้สอนเป็นผู้กระตุ้นให้ผู้เรียนแสดงผลการเรียนรู้ในแฟ้มสะสมงานเพื่อสะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าของผู้เรียนแต่ละคน วิธีการสอนเชิงประสบการณ์ประกอบด้วยขั้นตอนการสอน 4 ขั้นตอน คือ การสร้างประสบการณ์จากการปฏิบัติกิจกรรม เป็นขั้นให้ผู้เรียนลงมือหรือทำกิจกรรมจากสภาพจริง ขั้นการอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เป็นขั้นการนำเสนอและแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยใช้การพูดและการเขียนขั้นการสรุป เป็นขั้นสรุปผลการเรียนรู้ โดยสรุปสู่หลักการหรือสู่มุมมองหรือแบบแผนที่กว้างขึ้น และขั้นการประยุกต์ใช้ เป็นขั้นของการนำสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้โดยการจัดโครงงาน จัดกิจกรรม ผลิตเครื่องมือและสื่อประชาสัมพันธ์ซึ่งนำที่ผลิตขึ้นไปใช้ในชีวิตจริง ผลการทดลองสรุปได้ดังนี้ 1. การจัดการเรียนการสอนเชิงประสบการณ์ในสาขาวิชาศิลปศาสตร์ในสถาบันราชภัฎ แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือการจัดการสอนเชิงประสบการณ์ในชั้นเรียน นอกชั้นเรียน และการผสมผสานระหว่างการสอนเชิงประสบการณ์ในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียน 2. หลังการทดลองนักศึกษากลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3. หลังการทดลองนักศึกษากลุ่มทดลอง มีคะแนนเฉลี่ยของความสามารถในการแก้ปัญหาสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 4. หลังการทดลองนักศึกษากลุ่มทดลอง มีคะแนนเฉลี่ยของความสามารถในการทำงานเป็นทีมสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 5. หลังการทดลองนักศึกษากลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยของความสามารถในการปฏิบัติสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 6. หลังการทดลองหนึ่งเดือนกลุ่มทดลองมีความสามารถในด้านทักษะการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05