Abstract:
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบปฏิสัมพันธ์ทางการเรียนผ่านเครือข่ายและเมตาคอคนิชั่นในการเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษาที่มีต่อการแก้ปัญหา 2) เพื่อศึกษาผลของรูปแบบปฏิสัมพันธ์ทางการเรียนผ่านเครือข่ายในการเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษาที่มีต่อการแก้ปัญหา 3) เพื่อ ศึกษาผลของเมตาคอคนิชั่นในการเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษาที่มีต่อการแก้ปัญหากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองได้จาการสุ่มเลือกนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนที่เปิดสอนวิชาโครงงานอิเล็กทรอนิกส์ และมีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่มีระบบการเรียนผ่านเครือข่าย จำนวน 3 โรงเรียนเป็น 90 คน ประกอบด้วย กลุ่มนักเรียนที่มีเมตาคอคนิชั่นสูง กลางและตํ่า กลุ่มละ 30 คน นักเรียนแต่ละกลุ่มเมตาคอคนิชั่นได้รับการสุ่มเข้ากลุ่มทดลอง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีปฏิสัมพันธ์ทางการเรียนผ่านเครือข่ายแบบผู้เรียนกับเนื้อหาและกลุ่มที่มีปฏิสัมพันธ์ทางการเรียนผ่านเครือข่ายแบบระหว่างผู้เรียนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ Two way ANOVA ผลการวิจัยพบว่า 1 ) ไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบปฏิสัมพันธ์ทางการเรียนผ่านเครือข่ายในการเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษาที่มีต่อการแก้ปัญหาในวิชาโครงงานอิเล็กทรอนิกส์ 2) นักเรียนที่มีรูปแบบปฏิสัมพันธ์ทางการเรียนผ่านเครือข่ายต่างกันในการเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษามีการแก้ปัญหาไม่แตกต่างกัน 3) นักเรียนที่มีเมตาคอคนิชั่นต่างกันเมื่อเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษา มีการแก้ปัญหาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยนักเรียนที่มีเมตาคอคนิชั่นสูงและปานกลางจะมีคะแนนการแก้ปัญหาสูงกว่านักเรียนที่มีเมตาคอคนิชั่นตํ่า