Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาตัวแปรดัดสรร ซึ่งส่งผดต่อระดับเชาวน์อารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และเปรียบเทียบระดับเชาวน์อารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แยกตามตัวแปรคัดสรรที่กำหนดไว้ โดยกลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2544 จำนวน 600 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลส่วนตัว แบบวัคเชาวน์อารมณ์ และแบบสอบถามรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเคียว และใช้การวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบพทุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1. จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเชาวน์อารมณ์กับ เพศ อายุ การอบรมเลี้ยงดู สายการเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การวิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์พทุคูณ สรุปผลจากการวิจัยได้ว่าเชาวน์อารมณ์สามารถทำนายได้โดยใช้ การอบรมเลี้ยงดู สายการเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2. ค่าเฉลี่ยของระดับเชาวน์อารมณ์ของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงไม่ต่างกัน 3. ค่าเฉลี่ยของระดับเชาวน์อารมณ์ของนักเรียนเมื่อจำแนกตามอายุไม่ต่างกัน 4. นักเรียนที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบผสมผสานระหว่างการอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยและแบบให้ความคุ้มครองมีค่าเฉลี่ยของระดับเชาวน์อารมณ์สูงสุด ในขณะที่นักเรียนที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบทอดทิ้งมีค่าเฉลี่ยของระดับเชาวน์อารมณ์ตํ่าสุด 5. ค่าเฉลี่ยของระดับเชาวน์อารมณ์ของนักเรียนที่เรียนสายวิทยาศาสตร์มีค่าตํ่าที่สุด ในขณะที่นักเรียนที่เรียนสายศิลป์มีภาษามีค่าเฉลี่ยของระดับเชาวน์อารมณ์สูงที่สุด 6. นักเรียนกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมอยู่ระหว่าง 2.01 ถึง 3.00 มีค่าเฉลี่ยของระดับเชาวน์อารมณ์สูงสุดรองลงมาคือกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมสูงกว่า 3.01 และนักเรียนกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยตํ่ากว่า 2.00 มีระดับเชาวน์อารมณ์ตํ่าสุด