Abstract:
ศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารงานวิชาการด้านการสอนภาษาจีนของโรงเรียนเอกชน เพื่อสอนภาษาจีนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โรงเรียนเอกชนเพื่อสอนภาษาจีนจำนวน 28 โรง โดยมีผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 28 คน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน จำนวน 28 คน และครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน จำนวน 147 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสังเกต วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) ด้านการบริหารหลักสูตร โรงเรียนทำการศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน จากเอกสารประกอบหลักสูตรการสอนภาษาจีนและประกอบหลักสูตรแกนกลาง ดำเนินการเตรียมบุคลากรในโรงเรียนโดยให้ครูผู้สอนเข้ารับการอบรม สัมมนา ประชุมเชิงปฏิบัติการ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่ผู้ใช้หลักสูตรโดยจัดให้มีห้องสมุด มุมหนังสือเกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน และจัดห้องเรียนให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนภาษาจีน มีการนิเทศติดตามและประเมินผลการใช้หลักสูตร โดยติดตามผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีการประชาสัมพันธ์หลักสูตรโดยการจัดประชุมแก่คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน ปัญหาที่พบคือ ผู้บริหารมีภาระงานมากทำให้ไม่มีเวลาศึกษาวิเคราะห์และทำความเข้าใจหลักสูตร ขาดงบประมาณสนับสนุนในการบริหารหลักสูตร ไม่มีห้องปฏิบัติการทางภาษา 2) ด้านการจัดการเรียนการสอน โรงเรียนดำเนินการจัดครูเข้าสอนโดยจัดตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของครูผู้สอน จัดตารางสอนให้เหมาะสมกับช่วงเวลาโดยหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ร่วมกับคณะกรรมการหรือผู้รับผิดชอบในการจัดตารางสอน จัดทำแผนการสอนโดยวิเคราะห์จุดมุ่งหมายของหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน เพื่อกำหนดผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
เนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอน มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดให้สอดคล้องกับเนื้อหาบทเรียนวิชาภาษาจีน ให้นักเรียนเขียนลำดับขีดตัวหนังสือจีน มีการใช้ภาษาจีนมากกว่าภาษาไทย มีการจัดกิจกรรมเสริมทักษะ โดยจัดชุมนุมหรือชุมนุมหรือชมรมเกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน จัดสอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนที่เรียนไม่ทันหรือประสบปัญหาในการเรียนภาษาจีน ซึ่งจัดในช่วงเวลาเย็นหรือหลังเลิกเรียนโดยการสอนแบบเป็นกลุ่ม ปัญหาที่พบคือ ขาดครูผู้สอน นักเรียนมีพื้นฐานความรู้ทางภาษาจีนแตกต่างกันมาก ทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูผู้สอนมีภาระงานมากทำให้การจัดกิจกรรมเสริมทักษะทำได้ไม่เต็มที่ 3) ด้านการวัดและประเมินผล โรงเรียนมุ่งเน้นให้ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีนทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาจีนของผู้เรียน โดยวัดและประเมินผลการเรียนโดยใช้แบบทดสอบ ใช้การทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาจีน ซึ่งใช้แบบทดสอบแบบข้อเขียน มีการจัดประเมินผลปลายภาคเรียนและปลายปีการศึกษา ปัญหาที่พบคือ ครูผู้สอนไม่สามารถวัดผล และประเมินผลกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีนได้อย่างหลากหลาย และความรู้พื้นฐานของผู้เรียนแตกต่างกัน ทำให้การวัดและประเมินผลการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีนเป็นไปด้วยความลำบาก 4) ด้านงานสื่อการเรียนการสอน มีการจัดหาสื่อการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน โดยครูผู้สอนจัดทำสื่อการเรียนการสอนภาษาจีนขึ้นเอง จัดเตรียมสื่อการเรียนการสอนภาษาจีนล่วงหน้าตามเนื้อหาบทเรียน ปัญหาที่พบคือ สื่อมีไม่เพียงพอ ขาดทักษะในการใช้สื่อบางชนิด 5) ด้านการนิเทศการสอน มีการจัดและดำเนินการนิเทศการสอนโดยการสังเกตการสอน ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนงานการนิเทศการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาจีน ปัญหาที่พบคือ ขาดผู้นิเทศที่มีความรู้ทางการสอนภาษาจีน