การศึกษาพฤติกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา

ธมนวรรณ ศักดิ์วังปลา

dc.contributor.advisor	สุชาติ วีพรปฐมกุล
dc.contributor.author	ธมนวรรณ ศักดิ์วังปลา
dc.contributor.other	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์
dc.date.accessioned	2020-11-10T08:19:33Z
dc.date.available	2020-11-10T08:19:33Z
dc.date.issued	2546
dc.identifier.isbn	9741748841
dc.identifier.uri	http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/69295
dc.description	วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2546	en_US
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา ด้านความรู้ ด้านเจตคติ และด้านการปฏิบัติกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จาก 10 โรงเรียน จำนวน 500 คน เป็นนักเรียนชาย 250 คน และนักเรียนหญิง 250 คน ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามและเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองและทางไปรษณีย์ ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 459 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 91.8 แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า “ที” (t-test) ค่า “เอฟ” (F-test) และ ทดสอบความแตกต่างระหว่างคู่ โดยวิธีของเชฟเฟ (Scheffe’s method) ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนโรงเรียนโสตศึกษามีพฤติกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ด้านความรู้อยู่ในระดับพอใช้ ด้านเจตคติอยู่ในระดับดี และด้านการปฏิบัติอยู่ในระดับดี 2. นักเรียนชายและนักเรียนหญิงโรงเรียนโสตศึกษาส่วนใหญ่ มีความรู้ เจตคติ และการปฏิบัติ เกี่ยวกับพฤติกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนระดับชันมัธยมศึกษาปีที่ 1, 2 และ 3 มีความรู้ และการปฏิบัติ เกี่ยวกับพฤติกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ด้านเจตคติ เกี่ยวกับพฤติกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
dc.description.abstractalternative	The purposes of this research were to study and compare the knowledge, attitude, and practice in exercise and sporting behavior of students in the School for the Deaf. Subjects were 250 male and 250 female students, studying at Matayomsuksa 1-3 from 10 Schools for the Deaf. Subjects were asked to respond to the questionnaires devised by the researcher. Four hundred and fifty nine questionnaires (91.8 percents) were returned and the collected data were then analyzed in term of percentages, means and standard deviation. A t-test, One Way Analysis of Variance and the Scheffe-s method were employed to determine the significant difference at the .05 level. The findings were as follow : 1. The overall knowledge in exercise and sporting behavior of the subjects was at the fair level while the attitude and practice were at the good level. 2. Knowledge, attitude and practice in exercise and sporting behavior of both male and female subjects were not significantly different at the .05 level. 3. Knowledge and practice in exercise and sporting behavior of subjects in Matayomsuksa 1, 2 and 3 were not significantly different at the .05 level while attitude in exercise and sporting behavior was significantly different at the .05 level.
dc.language.iso	th	en_US
dc.publisher	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.rights	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.subject	โรงเรียนโสตศึกษา	en_US
dc.subject	พฤติกรรมมนุษย์	en_US
dc.subject	การออกกำลังกาย	en_US
dc.subject	เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน	en_US
dc.subject	School for the deaf	en_US
dc.subject	Human behavior	en_US
dc.subject	Exercise	en_US
dc.subject	Hearing impaired children	en_US
dc.title	การศึกษาพฤติกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาของนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษา	en_US
dc.title.alternative	A study of exercise and sporting behaviors of students in school for the deaf	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.name	ครุศาสตรมหาบัณฑิต	en_US
dc.degree.level	ปริญญาโท	en_US
dc.degree.discipline	พลศึกษา	en_US
dc.degree.grantor	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.email.advisor	suchart_ta@hotmail.com