Abstract:
ในอุตสาหกรรมจำนวนมากที่ถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ผู้ประกอบการอาจร่วมมือกันกำหนดมาตรฐานการเชื่อมต่อและความเข้ากันได้ขึ้นมาใช้ร่วมกันแทนที่จะทำการแข่งขันกันหรือใช้กระบวนการกำหนดมาตรฐานอย่างเป็นทางการ พฤติกรรมเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดทั้งในด้านบวกและในด้านลบอันเนื่องมาจากคุณลักษณะของอุตสาหกรรมแบบเครือข่าย แม้ว่ามาตรฐานจะมีประโยชน์ต่อการทำงานร่วมกันของผลิตภัณฑ์ต่างๆแต่ในขณะเดียวกันก็เกิดเป็นประเด็นปัญหาทางกฎหมายการแข่งขันทางการค้าในหลายประการ และมาตรฐานก็ถูกนำมาใช้เป็นกลยุทธ์สำหรับการแข่งขันสมัยใหม่มากขึ้น เมื่อประกอบกับปัญหาจากสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิทธิบัตร) และการใช้การอนุญาตให้ใช้สิทธิแบบหลายฝ่ายเพื่อส่งเสริมมาตรฐานใหม่ๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำข้อตกลงใช้สิทธิบัตรร่วมกัน) ที่สามารถทำให้ผู้ทรงสิทธิเข้าไปมีอำนาจควบคุมเหนือมาตรฐานและใช้อำนาจเหนือตลาดที่เพิ่มมากขึ้นนั้นกระทำต่อคู่แข่งขันของตนเอง วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาการใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าที่มีต่อปัญหาต่างๆดังกล่าว ผลจากการศึกษาพบว่ากฎหมายการแข่งขันทางการค้ามีบทบาทเพื่อให้แน่ใจได้ว่าผู้ประกอบการที่มีอำนาจเหนือตลาดจะไม่ใช้อำนาจตลาดเพื่อประโยชน์ในการรักษาอำนาจตลาดของตนเองด้วยการขัดขวางกระบวนการพัฒนาทางเทคโนโลยีใหม่ๆมิให้เข้าสู่ตลาด และมาตรฐานที่ถูกจัดตั้งนั้นเปิดกว้างสำหรับการนำไปใช้ได้โดยไม่ถูกจำกัดอย่างไม่เป็นธรรม สำหรับประเทศไทย พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 ได้ห้ามการร่วมกันกำหนดมาตรฐานดังกล่าวแม้ว่าจะมีเหตุผลอันสมควรและอาจเป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันในภาพรวมก็ตาม และพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 มิได้มีบทกำหนดให้ผู้ทรงสิทธิบัตรอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรสำหรับมาตรฐานโดยยุติธรรมเนื่องจากยินยอมให้กำหนดเงื่อนไขถ่ายทอดกลับแบบเด็ดขาดซึ่งสามารถขัดขวางการพัฒนามาตรฐานทางเลือกขึ้นมาทดแทนมาตรฐานเดิมซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวทางที่ใช้ในต่างประเทศที่ได้ศึกษา