Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการประเมินแฟ้มผลงานโดยใช้การวิเคราะห์อภิมาน 2) ประเมินผลการประเมินแฟ้มผลงานโดยใช้การประเมินอภิมาน และ 3) เพื่อสังเคราะห์ผลที่ได้จากวัตถุประสงค์ 2 ข้อแรกแล้วนำเสนอและตรวจสอบกระบวนการและการใช้ผลการประเมินแฟ้มผลงาน จากการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยพัฒนกระบวนการประเมินแฟ้มผลงาน 7 ขั้นตอนและเกณฑ์มาตรฐาน 30 เกณฑ์ เป็นแนวทางสำหรับการสังเคราะห์อภิมานและการประเมินอภิมาน ข้อมูลสำหรับการวิจัยประกอบด้วยตัวแปร 83 ตัวแปร จากหนังสือ/ตำรา 13 เล่มบทความวิชาการ 17 เรื่อง และรายงานวิจัย 19 เล่ม ที่เกี่ยวกับการประเมินแฟ้มผลงาน และข้อมูลเชิงคุณภาพจากการศึกษาภาคสนามโดยการสัมภาษณ์ครู 24 คน ในโรงเรียน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การวิเคราะห์เนื้อหา การใช้สถิติภาคบรรยายและสถิติอนุมานในการวิเคราะห์อภิมาน การประเมินอภิมานและการสังเคราะห์ผล ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญ ได้แก่ 1) ผลการวิเคราะห์อภิมาน พบว่า ค่าขนาดอิทธิพลมีค่าเฉลี่ย 0.98 หมายความว่า กลุ่มนักเรียนที่ใช้การประเมินแฟ้มผลงานมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่ากลุ่มนักเรียนที่ไม่ใช้การประเมินแฟ้มผลงาน 2) รายงานวิจัยและการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการประเมินแฟ้มผลงานที่มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมได้แก่ การประเมินที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความก้าวหน้ามีระยะเวลาในการทำแฟ้มผลงานนานตั้งแต่ 1 ภาคเรียนขึ้นไป การนำผลการประเมินไปใช้ประโยชน์หลายประการ และมีการคำนวณความตรงของคะแนนการประเมินแฟ้มผลงาน 3) เมื่อสังเคราะห์ผลการวิจัย 2 ข้อแรกจะได้กระบวนการและการใช้การประเมินแฟ้มผลงานที่มีค่าขนาดอิทธิพลและคะแนนคุณภาพตามมาตรฐานการประเมินสูงจำนวน 3 รูปแบบจาก 16 รูปแบบ รูปแบบแรกได้แก่การประเมินแฟ้มผลงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความก้าวหน้า มีการดำเนิน การประเมินครบทั้งการวางแผน การสะท้อนความคิดและการจัดทำแฟ้มผลงาน มีครูและนักเรียนเป็นผู้ประเมินและมีการอภิปรายและสะท้อนความคิดต่อผลการประเมิน รูปแบบที่ 2 และ 3 เป็นรูปแบบที่มีลักษณะคล้ายรูปแบบแรกแต่ไม่มีการอภิปรายและสะท้อนความคิด และรูปแบบที 3 มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินผลรวมตามลำดับ