Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/18123
Title: การเปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กรุงเทพมหานคร
Other Titles: A compaison of attitudes towards english language leagrage learning of students in mathayom suksa one, mathayom suksa three and mathayom suksa six Bangkok Metropolis
Authors: ทิพรัตน์ ลิมพะสุต
Advisors: สุมิตรา อังวัฒนกุล
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย
Subjects: ทัศนคติ
ภาษาอังกฤษ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา)
นักเรียนมัธยมศึกษา -- ทัศนคติ -- ไทย
Issue Date: 2534
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนภาษา อังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในกรุงเทพมหานคร และเปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษระหว่างโรงเรียนรัฐ บาลและเอกชน และระหว่างนักเรียนชายและหญิง ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2,173 คน ซึ่งสุ่มแบบแบ่งชั้นจากโรงเรียนรัฐบาล และโรงเรียนเอกชนอย่างละ 8 โรง ในกรุงเทพมหานคร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบวัดเจตคติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบความแตกต่างระหว่างคู่ โดยวิธีการของเชฟเฟ และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่ามัชฌิม เลขคณิตของเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศอ ยู่ในระดับไม่แน่ใจ แต่มีเจตคติเพื่อต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้ประโยชน์และเจตคติต่ อการเห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษอยู่ในระดับเห็นด้วย 2.เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษโดยรวมของนักเรียนทั้ง 3 ระดับชั้น ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ และเจตคติเพื่อต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้ประโยชน์แตกต่างกันอ ย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3.เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษโดยรวมของนักเรียนในโรงเรียนรั ฐบาลและเอกชนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1และเจตคติเพื่อต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้ประโยชน์ของนักเรีย นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนทั้ง 2 ประเภท แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 4.เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษโดยรวม เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ เจตคติเพื่อต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้ประโยชน์ และเจตคติต่อการเห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษของนักเ รียนชายและหญิง แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Other Abstract: The purposes of this research were to compare the attitudes towards English language learning of students in mathayom suksa one, mathayom suksa three and mathayom suksa six in Bangkok Metropolis and to compare such attitudes between students in government schools and private schools and between male and female students. The samples of this study were 2173 students in mathayom suksa one, mathayom suksa three and mathayom suksa six which were stratified randomly sampled from 8 government schools and 8 private schools in Bangkok Metropolis. The research instrument was attitudes test. The data were analyzed by means variance, Scheffe test and t-test. The research findings were concluded as follows : 1.Students in mathayom suksa one, mathayom suksa three and mathayom suksa six got mean scores of attitudes towards learning English as a foreign Language at the uncertain level, instrumental attitude and attitudes towards the importance of English language learning at the agreement level. 2.The attitudes towards English language learning of students in three levels were not statistically differences at the 0.05 level of significance. However, in the aspects of attitude towards learning English as a foreign language and instrumental attitude, it was found that there were significantly difference at the 0.05 level. 3. The attitudes towards English language learning of students in government schools and private schools were not statistically differences. However, attitude towards learning English as a foreign language of students in mathayom suksa one and instrumental attitude of students in mathayom suksa three in both types of schools were significantly difference at the 0.05 level. 4. The attitudes towards English language learning, attitude towards learning English as a foreign language, instrumental attitude and attitude towards the importance of English language learning of male and female students were significantly difference at the 0.05 level of significance.
Description: วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2534
Degree Name: ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: มัธยมศึกษา
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/18123
ISBN: 9745785741
Type: Thesis
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thiparatana_Li_front.pdf408.93 kBAdobe PDFView/Open
Thiparatana_Li_ch1.pdf419.08 kBAdobe PDFView/Open
Thiparatana_Li_ch2.pdf1.7 MBAdobe PDFView/Open
Thiparatana_Li_ch3.pdf362.99 kBAdobe PDFView/Open
Thiparatana_Li_ch4.pdf805.58 kBAdobe PDFView/Open
Thiparatana_Li_ch5.pdf524.97 kBAdobe PDFView/Open
Thiparatana_Li_back.pdf762.94 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.