Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67796
Title: การจัดตารางการผลิตสำหรับระบบโฟลว์ชอป : กรณีศึกษา โรงหล่อ
Other Titles: Flow shop scheduling : case study foundry shop
Authors: ปรีดี ตันติประภาส
Advisors: ปารเมศ ชุติมา
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย
Subjects: ระบบการผลิตแบบโฟลว์ชอป
การกำหนดงานการผลิต
โรงหล่อ -- ไทย
Issue Date: 2542
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลกระทบของปัจจัยกฎการจัดลำดับ (Dispatching Rules) ที่มีต่อประสิทธิภาพของระบบการผลิตแบบโฟลว์ชอป (Flow Shop) ด้วยเทคนิคการจำลองแบบปัญหาทาง คอมพิวเตอร์ (Computer Simulation) โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ARENA 2.2 จำลองแบบปัญหาของกรณี ศึกษาในการจัดตารางการผลิตของโรงหล่อ เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของกฎการจัดลำดับ สำหรับดัชนีที่ ใช้วัดประสิทธิภาพในงานวิจัยฉบับนี้ประกอบด้วย เวลาที่งานอยู่ในระบบ (Flow Time) เวลาที่งานเสร็จไม่ ตรงกำหนด (Lateness) เวลาที่งานเสร็จเกินกำหนดส่งงาน (Tardiness) อัตราส่วนจำนวนงานที่เสร็จเกินกำหนดส่งต่อจำนวนงานทั้งหมด (Proportion of Jobs Tardy) และอัตราการใช้เครื่องจักรของระบบ (System Utilization) จากผลการทดลองสามารถสรุปได้ว่า กฎการจัดลำดับมีผลต่อสำหรับดัชนีวัดประสิทธิภาพของระบบผลิตที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ และการใช้กฎการจัดลำดับที่ดีสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดตารางการผลิตของการผลิตของกรณีศึกษา สำหรับกฎการจัดลำดับที่มีประสิทธิภาพโดยรวมสูงในปัญหาของกรณีศึกษา คือ LWKR (Least Work Remaining) SMT (Smallest Value obtain by Multiplying Processing time) และ SPT (Shortest Processing Time)
Other Abstract: This paper attempts to investigate the influence of the dispatching rules to the performance of flow shop by using computer simulation technique. The simulation language “ARENA 2.2” is applied to model a foundry shop (case study) performed the simulation. The relative effectiveness of the dispatching rules is measured against mean flow time, mean lateness, mean tardiness, proportion of jobs tardy and average system utilization. The simulation results indicated that dispatching rules affect every measure of performance for 95% significance level. The rules that show good performance in the case study for all measures are LWKR, SMT and SPT.
Description: วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2542
Degree Name: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: วิศวกรรมอุตสาหการ
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67796
ISBN: 9743324348
Type: Thesis
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Preedee_ta_front_p.pdfหน้าปก สารบัญ และบทคัดย่อ1.19 MBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_ch1_p.pdfบทที่ 11.23 MBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_ch2_p.pdfบทที่ 2969.03 kBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_ch3_p.pdfบทที่ 32.16 MBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_ch4_p.pdfบทที่ 41.52 MBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_ch5_p.pdfบทที่ 5907.97 kBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_ch6_p.pdfบทที่ 61.15 MBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_ch7_p.pdfบทที่ 7796.32 kBAdobe PDFView/Open
Preedee_ta_back_p.pdfบรรณานุกรมและภาคผนวก7.32 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.